นับจํานวนหรือวันที่โดยยึดตามเงื่อนไข

2

พนักงานขาย

ใบแจ้งหนี้

3

Buchanan

15,000

4

Buchanan

9,000

5

Suyama

8,000

6

Suyma

20,000

7

Buchanan

5,000

8

Dodsworth

22,500

9

สูตร

คำอธิบาย (ผลลัพธ์)

10

=COUNTIF(B2:B7,">9000")

ฟังก์ชัน COUNTIF จะนับจํานวนเซลล์ในช่วง B2:B7 ที่มีตัวเลขมากกว่า 9000 (4)

11

=COUNTIF(B2:B7,"<=9000")

ฟังก์ชัน COUNTIF จะนับจํานวนเซลล์ในช่วง B2:B7 ที่มีตัวเลขน้อยกว่า 9000 (4)

1.2

=COUNTIFS(B2:B7,">=9000",B2:B7,"<=22500")

ฟังก์ชัน COUNTIFS (พร้อมใช้งานใน Excel 2007 และเวอร์ชันที่ใหม่กว่า) นับจํานวนเซลล์ในช่วง B2:B7 มากกว่าหรือเท่ากับ 9000 และน้อยกว่าหรือเท่ากับ 22500 (4)

1.3

=SUMPRODUCT((B2:B7>=9000)*(B2:B7<=22500))

ฟังก์ชัน SUMPRODUCT จะนับจํานวนเซลล์ในช่วง B2:B7 ที่มีตัวเลขที่มากกว่าหรือเท่ากับ 9000 และน้อยกว่าหรือเท่ากับ 22500 (4) คุณสามารถใช้ฟังก์ชันนี้ใน Excel 2003 และเวอร์ชันก่อนหน้า ที่ COUNTIFS ไม่พร้อมใช้งาน

14

วันที่

15

3/11/2011

16

1/1/2010

17

12/31/2010

18

6/30/2010

19

สูตร

คำอธิบาย (ผลลัพธ์)

20

=COUNTIF(B14:B17,">3/1/2010")

นับจํานวนเซลล์ในช่วง B14:B17 ที่มีข้อมูลที่มากกว่า 1/3/2553 (3)

21

=COUNTIF(B14:B17,"12/31/2010")

นับจํานวนเซลล์ในช่วง B14:B17 เท่ากับ 12/31/2010 (1) เครื่องหมายเท่ากับไม่จําเป็นในเกณฑ์ ดังนั้นจึงไม่ได้รวมไว้ในที่นี้ (สูตรจะทํางานกับเครื่องหมายเท่ากับ ถ้าคุณใส่เครื่องหมายเท่ากับ ("=12/31/2010")

22

=COUNTIFS(B14:B17,">=1/1/2010",B14:B17,"<=12/31/2010")

นับจํานวนเซลล์ในช่วง B14:B17 ที่อยู่ระหว่าง (รวม) 1/1/2553 และ 31/12/2553 (3)

23

=SUMPRODUCT((B14:B17>=DATEVALUE("1/1/2010"))*(B14:B17<=DATEVALUE("12/31/2010")))

นับจํานวนเซลล์ในช่วง B14:B17 ที่อยู่ระหว่าง (รวม) 1/1/2553 และ 31/12/2553 (3) ตัวอย่างนี้ทําหน้าที่แทนฟังก์ชัน COUNTIFS ที่ถูกนํามาใช้ใน Excel 2007 ฟังก์ชัน DATEVALUE จะแปลงวันที่เป็นค่าตัวเลข ซึ่งฟังก์ชัน SUMPRODUCT สามารถทํางานด้วยได้