ความแตกต่างของความกว้างของคอลัมน์ระหว่าง Excel 2011 for Mac และเวอร์ชันที่ใหม่กว่า

บันทึกย่อทางเทคนิค:

1. Excel จะตรวจสอบความกว้างของคอลัมน์โดยยึดตามความกว้างอักขระของฟอนต์ที่ใช้ในสไตล์เซลล์ “ปกติ” และหน่วยความกว้างคอลัมน์คือ “ความกว้างของอักขระ” “ความกว้างอักขระ” ขึ้นอยู่กับฟอนต์และขนาดฟอนต์ที่ระบุในสไตล์เซลล์ “ปกติ” ถ้าฟอนต์แคบหรือตั้งเป็นฟอนต์ขนาดเล็ก คอลัมน์เริ่มต้นจะแคบกว่าถ้าฟอนต์กว้างขึ้นและ/หรือตั้งค่าเป็นฟอนต์ขนาดใหญ่ขึ้น เมื่อปรับขนาดหรือฟอนต์ในสไตล์เซลล์ “ปกติ” ความกว้างของคอลัมน์ทั้งหมดจะมีการคำนวณใหม่และปรับให้เหมาะสม

2. ทำไมจึงมีความแตกต่างระหว่าง Excel 2011 และ Excel for Mac เวอร์ชันที่ใหม่กว่า ความกว้างอักขระในหน่วยพิกเซลจะมีการรายงานไปยัง Excel โดยระบบปฏิบัติการ ถ้าความกว้างของฟอนต์ที่ระบุ (ในหน่วยพิกเซล) ไม่ใช่จํานวนเต็ม Excel จะปรับให้เป็นจํานวนเต็ม เนื่องจากไม่สามารถแสดงพิกเซลเป็นบางส่วนได้ Excel 2011 จะปรับเป็นจํานวนเต็มถัดไปที่สูงขึ้น แต่ Excel เวอร์ชันที่ใหม่กว่าจะปัดเศษเป็นจํานวนเต็มที่ใกล้เคียงที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับ Excel สำหรับ Windows สำหรับขนาดฟอนต์ที่ปัดลงโดย Excel 2016 และเวอร์ชันที่ใหม่กว่า ขนาดคอลัมน์จะแตกต่างออกไป  
   
   ตัวอย่างเช่น ถ้าระบบปฏิบัติการแจ้งว่าความกว้างของอักขระฟอนต์มีขนาด 6.48 พิกเซล Excel 2011 จะใช้ความกว้างอักขระเป็น 7 พิกเซล แต่ Excel for Mac และ Excel สำหรับ Windows เวอร์ชันที่ใหม่กว่าจะใช้ความกว้างอักขระเป็น 6 พิกเซล ถ้าคอลัมน์มีความกว้าง 10 อักขระ คอลัมน์ใน Excel 2011 จะกว้างกว่า Excel for Mac และ Excel for Windows เวอร์ชันที่ใหม่กว่า 10 พิกเซล
   
   ในหลายแผ่นงาน ความแตกต่างเหล่านี้ไม่มีนัยสำคัญ แต่ก็มีสถานการณ์ที่สามารถเห็นความแตกต่างได้ชัดขึ้น เช่น เมื่อคุณมีคอลัมน์จํานวนมากเพื่อให้พอดีกับหน้ากระดาษที่พิมพ์หนึ่งหน้า มีความเป็นไปได้ที่การปัดเศษรวมทั้งความแตกต่างเล็กน้อยในการคํานวณความกว้างของคอลัมน์อาจนำไปสู่ความแตกต่างที่สังเกตเห็นได้  สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Excel กําหนดความกว้างของคอลัมน์ ให้ไปที่คำอธิบายวิธีกำหนดความกว้างของคอลัมน์ใน Excel

3. API ของ macOS ที่ Excel ใช้เพื่อหาความกว้างของอักขระสำหรับฟอนต์ที่ระบุมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากการเลิกใช้ API ที่ Excel 2011 ใช้ ในบางกรณี API แทนที่จะแจ้งความกว้างของอักขระที่แตกต่างจาก API แบบดั้งเดิม ซึ่งอาจทำให้เกิดความแตกต่างที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้โดย Excel

4. ความกว้างของคอลัมน์จะแสดงเป็นจํานวนอักขระหรือหน่วยจริง (นิ้วหรือซม.) ซึ่งจะมีการประมวลผลกลับมาเป็นจํานวนเต็มในหน่วยพิกเซล ความกว้างจริงของคอลัมน์อาจถูกปัดเศษเพื่อให้กลายเป็นจํานวนเต็มในหน่วยพิกเซล ตัวอย่างเช่น ถ้าผู้ใช้ปรับความกว้างของคอลัมน์จาก 0.08 นิ้ว เป็น 0.09 นิ้ว ความกว้างของคอลัมน์อาจไม่เปลี่ยนแปลง เนื่องจากทั้งสองค่าอาจปัดเศษเป็นจํานวนเต็มในหน่วยพิกเซลเท่ากัน ด้วยเหตุนี้ ความกว้างของคอลัมน์ที่ตั้งค่าในหน่วยจริงอาจไม่ตรงกับความกว้างของหน้าจริงที่คาดไว้อย่างถูกต้อง ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณตั้งค่าความกว้างของคอลัมน์เป็น 1 นิ้ว คอลัมน์อาจไม่ได้มีความกว้าง 7 คอลัมน์พอดีบนหน้าที่มีความกว้าง 7 นิ้ว

5. จากความแตกต่างด้านความสูงของแถวระหว่าง Excel 2011 และ Excel for Mac เวอร์ชันที่ใหม่กว่า Excel จะปรับความสูงของแถวให้พอดีกับฟอนต์และขนาดฟอนต์ตามค่าในแถวที่ระบุโดยอัตโนมัติ เว้นแต่ว่าผู้ใช้จะจะระบุความสูงของแถวด้วยตนเอง ช่องว่างบางส่วน (พื้นที่ว่าง) จะเพิ่มเข้ามาในความสูงของแถวเพื่อให้พอดีกับฟอนต์และขนาดฟอนต์ที่ระบุ จํานวนช่องว่างที่ใช้จะแตกต่างกันเล็กน้อยระหว่าง Excel 2011 และ Excel for Mac เวอร์ชันที่ใหม่กว่า ความแตกต่างเหล่านี้มีไว้เพื่อให้เกิดความสอดคล้องมากขึ้นระหว่าง Excel บน Mac และ Windows เพื่อให้มีประสบการณ์การใช้งานที่ต่อเนื่องยิ่งขึ้นเมื่อแชร์ไฟล์

สถานะ: การแก้ไขปัญหา

วิธีเหล่านี้แต่ละวิธีอาจใช้งานได้ในสถานการณ์ที่ต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับเนื้อหาและวัตถุประสงค์ของเวิร์กบุ๊ก 

1. ในกรณีที่ความกว้างของคอลัมน์ในเวิร์กบุ๊กกว้างหรือแคบกว่าที่คาดไว้ คุณสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าหนึ่งซึ่งจะทําให้ความกว้างของคอลัมน์ทั้งหมดมีการคำนวณใหม่ (ปรับมาตราส่วน) เพื่อไม่ให้เกิดความจำเป็นในการปรับขนาดคอลัมน์ด้วยตนเอง ระบุฟอนต์และ/หรือขนาดฟอนต์ในสไตล์เซลล์ “ปกติ” ที่มีความกว้างอักขระเหมือนกันทั้งใน Excel 2011 และเวอร์ชันที่ใหม่กว่า เมื่อต้องการค้นหาฟอนต์และขนาดฟอนต์ดังกล่าว ให้ใช้ Excel for Mac เวอร์ชันที่ใหม่กว่าเพื่อเปิดเอกสารที่คุณทราบเค้าโครงที่ต้องการใน Excel 2011  เปลี่ยนฟอนต์และ/หรือขนาดฟอนต์ในสไตล์เซลล์ “ปกติ” แล้วตรวจสอบว่าเค้าโครงตรงตามที่คุณต้องการหรือไม่ คุณอาจต้องลองใช้ฟอนต์และ/หรือขนาดฟอนต์หลายๆ แบบเพื่อค้นหาฟอนต์ที่ให้ผลลัพธ์ได้ตามต้องการ

2. หากต้องการไม่ให้เกิดสถานการณ์ที่คอลัมน์กว้างกว่าที่คาดไว้ และทําให้หน้าเพิ่มขึ้น หรือทำให้หน้าไปแสดงอยู่ทางด้านขวาของหน้าที่ต้องการ (ในมุมมองเค้าโครงหน้ากระดาษหรือเมื่อพิมพ์) คุณสามารถตั้งค่าตัวเลือก “ปรับให้พอดี” เพื่อให้พอดีกับความกว้าง 1 หน้า และความสูง “อัตโนมัติ” ได้  วิธีนี้จะลดขนาดคอลัมน์ตามความจําเป็น เพื่อให้พอดีกับความกว้างของหน้าเดียว  ตัวเลือกเหล่านี้จะอยู่บนแท็บเค้าโครงหน้ากระดาษของ Ribbon และยังสามารถดูได้ในกล่องโต้ตอบการตั้งค่าหน้ากระดาษด้วย ในกล่องโต้ตอบการตั้งค่าหน้ากระดาษ ให้ตั้งค่าเขตข้อมูล “ความสูง” เป็นว่างเปล่าโดยลบค่า ซึ่งหมายความว่าพื้นที่พิมพ์จะมีการปรับขนาดให้กว้าง 1 หน้า แต่ “ความสูง” ของจํานวนหน้าจะมีการปรับตามความจําเป็นเพื่อให้พอดีกับความกว้างที่ระบุ
   

3. เกี่ยวกับหน่วยวัดสำหรับคอลัมน์ระหว่าง Excel 2011 และ Excel for Mac เวอร์ชันที่ใหม่กว่า:

   1. ความกว้างของคอลัมน์จะแสดงหน่วยวัดเดียวกันเมื่อแสดงในมุมมองเค้าโครงหน้ากระดาษ

   2. ในมุมมองปกติ ความกว้างของคอลัมน์จะแสดงเป็นอักขระและพิกเซลมากกว่าหน่วยทางการภาพ เนื่องจากหน่วยทางกายภาพไม่ถูกนำไปใช้กับมุมมองโดยตรง เมื่อต้องการดูหน่วยทางกายภาพ (นิ้ว/ซม.) คุณสามารถสลับไปยังมุมมองเค้าโครงหน้ากระดาษได้

4. เกี่ยวกับหน่วยวัดสำหรับแถวระหว่าง Excel 2011 และ Excel for Mac เวอร์ชันที่ใหม่กว่า:

   1. ความสูงของแถวจะแสดงเป็นหน่วยวัดเดียวกันเมื่ออยู่ในมุมมองเค้าโครงหน้ากระดาษ

   2. ในมุมมองปกติ ความสูงของแถวใน Excel for Mac เวอร์ชันที่ใหม่กว่าจะแสดงเป็นพอยต์/พิกเซลแทนที่จะเป็นนิ้ว/ซม.  ถ้าต้องการดูหน่วยเป็นนิ้วหรือเซนติเมตร คุณสามารถสลับเป็นมุมมองเค้าโครงหน้ากระดาษได้

5. การปรับขนาดแถวและคอลัมน์ - สามารถปรับแถวหรือคอลัมน์เป็นจำนวนมากได้พร้อมกันโดยเลือกแถว/คอลัมน์ที่ต้องการ แล้วลากขอบของแถวหรือคอลัมน์หนึ่งให้มีความสูง/ความกว้างตามต้องการ  แถวหรือคอลัมน์ที่เลือกทั้งหมดจะได้รับการตั้งค่าให้มีขนาดตามที่ระบุ การเพิ่มช่วยให้สามารถปรับได้ละเอียดเท่ากับพิกเซลเดียว ดังที่แสดงไว้นี้
   

6. ในบางกรณี รูปอาจถูกยืดออกหรือถูกบีบ (อัตราส่วนกว้างยาวหายไป) ถ้าต้องการคืนค่ารูปภาพให้มีขนาดเดิมเหมือนเมื่อแทรกลงในไฟล์ คุณสามารถเลือกรูป แล้วไปที่บานหน้าต่างรูปแบบรูปภาพ แล้วคลิกปุ่มรีเซ็ต
   
   หากต้องใช้รูปจำนวนมาก สามารถจัดการได้ด้วย VBA (แมโคร) ใช้วิธี ShapeRange.ScaleHeight และ ShapeRange.ScaleWidth เพื่อรีเซ็ตหรือเปลี่ยนขนาดของวัตถุ  ตัวอย่างเช่น เมื่อต้องการรีเซ็ตรูปร่างที่เลือกให้มีขนาดเดิมโดยที่ยังให้มุมซ้ายบนคงอยู่ในตําแหน่งปัจจุบัน ให้ใช้ "Selection.ShapeRange.ScaleHeight 1, msoTrue, msoScaleFromTopLeft"

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

ถามผู้เชี่ยวชาญ

ติดต่อกับผู้เชี่ยวชาญ พูดคุยเกี่ยวกับข่าวสาร อัปเดต และหลักปฏิบัติที่ดีที่สุดของ Excel ล่าสุด และอ่านบล็อกของเรา

ชุมชนด้านเทคนิคของ Excel

ขอความช่วยเหลือในชุมชน

ถามคำถามและวิธีการแก้ไขจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุน MVP วิศวกร และผู้ใช้ Excel รายอื่น

กระดานสนทนาของ Excel บน Answers

แนะนำฟีเจอร์ใหม่

เราชอบอ่านคำแนะนำและคำติชมของคุณ! แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ เรายินดีรับฟัง

ให้คำติชม