บทความนี้จะอธิบายเกี่ยวกับไวยากรณ์ของสูตรและการใช้ฟังก์ชัน FTEST ใน Microsoft Excel
ส่งกลับค่าผลลัพธ์ของ F-test โดย F-test จะส่งกลับค่าความน่าจะเป็นแบบสองด้านที่ความแปรปรวนใน array1 และ array2 แตกต่างกันไม่มาก ใช้ฟังก์ชันนี้เพื่อกำหนดว่าทั้งสองตัวอย่างมีความแปรปรวนต่างกัน ตัวอย่างเช่น จากคะแนนการสอบของโรงเรียนรัฐบาลและโรงเรียนเอกชน คุณสามารถทดสอบว่าโรงเรียนเหล่านี้มีระดับความหลากหลายของคะแนนหรือไม่
สิ่งสำคัญ: ฟังก์ชันนี้ได้ถูกแทนที่ด้วยฟังก์ชันใหม่อย่างน้อยหนึ่งฟังก์ชัน ที่มีความถูกต้องมากยิ่งขึ้น และชื่อของฟังก์ชันสื่อถึงการใช้งานได้ดีขึ้น แม้ว่าฟังก์ชันนี้จะยังคงมีให้ใช้งานได้อยู่เพื่อความเข้ากันได้กับเวอร์ชันก่อนหน้า คุณควรพิจารณาใช้ฟังก์ชันใหม่แทนตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เนื่องจากฟังก์ชันนี้อาจไม่มีให้ใช้งานใน Excel เวอร์ชันต่อๆ ไป
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟังก์ชันใหม่ ให้ดูที่ ฟังก์ชัน F.TEST
ไวยากรณ์
FTEST(array1,array2)
ไวยากรณ์ของฟังก์ชัน FTEST มีอาร์กิวเมนต์ดังนี้
-
Array1 (ต้องระบุ) คืออาร์เรย์แรก หรือช่วงของข้อมูล
-
Array2 (ต้องระบุ) คืออาร์เรย์ที่สอง หรือช่วงของข้อมูล
ข้อสังเกต
-
อาร์กิวเมนต์ต้องเป็นตัวเลขหรือชื่อ, อาร์เรย์ หรือการอ้างอิงที่มีตัวเลข
-
ถ้าอาร์กิวเมนต์อาร์เรย์หรือการอ้างอิงประกอบด้วยข้อความ ค่าตรรกะ หรือเซลล์ว่างเปล่า ค่าเหล่านั้นจะถูกละเว้น แต่เซลล์ที่มีค่าศูนย์จะถูกรวมไว้
-
ถ้าจำนวนของจุดข้อมูลใน array1 หรือ array2 น้อยกว่า 2 หรือค่าความแปรปรวนของ array1 หรือ array2 เป็นศูนย์ ฟังก์ชัน FTEST จะส่งกลับ #DIV/0! เป็นค่าความผิดพลาด
-
ค่า F-test ที่ส่งกลับโดยฟังก์ชัน LINEST แตกต่างจากค่า F-test ที่ส่งกลับโดยฟังก์ชัน FTEST ซึ่ง LINEST ส่งกลับสถิติ F ขณะที่ FTEST ส่งกลับค่าความน่าจะเป็น
ตัวอย่าง
คัดลอกข้อมูลตัวอย่างในตารางต่อไปนี้ และวางในเซลล์ A1 ของเวิร์กชีต Excel ใหม่ เพื่อให้สูตรแสดงผลลัพธ์ ให้เลือกสูตร กด F2 แล้วกด Enter ถ้าต้องการ คุณสามารถปรับความกว้างของคอลัมน์เพื่อดูข้อมูลทั้งหมด
ข้อมูล1 |
ข้อมูล2 |
|
6 |
20 |
|
7 |
28 |
|
9 |
31 |
|
15 |
38 |
|
21 |
40 |
|
สูตร |
คำอธิบาย |
ผลลัพธ์ |
=FTEST(A2:A6,B2:B6) |
F-test สำหรับชุดข้อมูลที่อยู่ข้างบน |
0.64831785 |