ส่งกลับความน่าจะเป็นของการแจกแจงแบบทวินามสำหรับแต่ละชุด ใช้ BINOM.DIST ในปัญหาที่มีจำนวนการทดสอบหรือการทดลองที่แน่นอน เมื่อการทดลองครั้งใดๆ ให้ผลเป็นสำเร็จหรือล้มเหลวเท่านั้น เมื่อการทดลองแต่ละครั้งเป็นอิสระต่อกัน และเมื่อความน่าจะเป็นที่จะได้รับผลสำเร็จเป็นค่าคงที่ตลอดการทดลอง ตัวอย่างเช่น BINOM.DIST สามารถคำนวณความน่าจะเป็นที่เด็กทารกสองในสามคนที่จะถือกำเนิดต่อไปนั้นเป็นเพศชาย
ไวยากรณ์
BINOM.DIST(number_s,trials,probability_s,cumulative)
ไวยากรณ์ของฟังก์ชัน BINOM.DIST มีอาร์กิวเมนต์ดังนี้
-
Number_s (ต้องระบุ) คือจำนวนครั้งที่การทดลองได้รับผลสำเร็จ
-
Trials (ต้องระบุ) คือจำนวนครั้งของการทดลองที่เป็นอิสระต่อกัน
-
Probability_s (ต้องระบุ) คือความน่าจะเป็นที่จะได้รับผลสำเร็จในการทดลองแต่ละครั้ง
-
Cumulative (ต้องระบุ) คือค่าตรรกะที่กำหนดรูปแบบของฟังก์ชัน ถ้า cumulative เป็น TRUE แล้ว BINOM.DIST จะส่งกลับฟังก์ชันการแจกแจงสะสม ซึ่งเป็นความน่าจะเป็นที่มี ความสำเร็จไม่เกิน number_s ครั้ง และถ้าเป็น FALSE จะส่งกลับฟังก์ชันมวลของความน่าจะเป็น ซึ่งเป็นความน่าจะเป็นที่มีความสำเร็จ number_s ครั้ง
ข้อสังเกต
-
ค่า number_s และ trials จะถูกปัดเศษเป็นจำนวนเต็ม
-
ถ้าค่า number_s, trials หรือ probability_s ไม่ใช่ตัวเลข ฟังก์ชัน BINOM.DIST จะส่งกลับ #VALUE! เป็นค่าความผิดพลาด
-
ถ้าค่า number_s < 0 หรือค่า number_s > trials ฟังก์ชัน BINOM.DIST จะส่งกลับ #NUM! เป็นค่าความผิดพลาด
-
ถ้าค่า probability_s < 0 หรือค่า probability_s > 1 ฟังก์ชัน BINOM.DIST จะส่งกลับ #NUM! เป็นค่าความผิดพลาด
-
ฟังก์ชันความน่าจะเป็นทวินามแบบรวม คือ
โดยที่:
เท่ากับ COMBIN(n,x)
การแจกแจงทวินามสะสม คือ
ตัวอย่าง
คัดลอกข้อมูลตัวอย่างในตารางต่อไปนี้ และวางในเซลล์ A1 ของเวิร์กชีต Excel ใหม่ เพื่อให้สูตรแสดงผลลัพธ์ ให้เลือกสูตร กด F2 แล้วกด Enter ถ้าต้องการ คุณสามารถปรับความกว้างของคอลัมน์เพื่อดูข้อมูลทั้งหมด
ข้อมูล |
คำอธิบาย |
|
6 |
จำนวนครั้งของความสำเร็จในการทดลอง |
|
10 |
จำนวนครั้งของการทดลองที่เป็นอิสระต่อกัน |
|
0.5 |
ความน่าจะเป็นที่จะได้รับผลสำเร็จในการทดลองแต่ละครั้ง |
|
สูตร |
คำอธิบาย |
ผลลัพธ์ |
=BINOM.DIST(A2,A3,A4,FALSE) |
ความน่าจะเป็นที่จะได้รับผลสำเร็จในการทดลอง 6 ครั้งจาก 10 ครั้ง |
0.2050781 |